วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2551


ความรู้สึกที่มีต่อการเรียนวิชาเตรียมฝึกวิชาชีพ
การที่เรียนวิชาเตรียมฝึกนั้นทำให้ผมได้อะไรหลายๆอย่างเช่น การตรงต่อเวลา การเเต่งกายที่ถูกระเบียบ เป็นต้น
เเละการเรียนวิชาเตรียมฝึกได้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่มีวิทยากรมาบรรยายให้ฟังและได้ทำกิจกรรมร่วมกันกับ
เพื่อนๆถึงกิจกรรมนั้นจะหนักแค่ไหนพวกเราก็ทำผลงานออกมาได้ดีเหมือนกันทำให้วิชาเตรียมฝึกนั้นเป็นวิชาหนึ่ง
ที่ผมชอบเพราะการเรียนวิชานี้ยังได้ไปเรียนที่ขณะวิทซึ่งเป็นขณะที่เปิดใหม่และสร้างอาคารใหม่ด้วยจึงทำให้ผม
ชอบเรียนวิชานี้และอีกอย่างวิชานี้เป็นวิชาที่ไม่ได้ยากอะไรเลย

วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551


ประวัติส่วนตัว
กระผมชื่อ นาย ประวัติ วรรณา
เกิดวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2530 อายุ 21 ปี
ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 295ข ถ.เมืองเก่า ต. ในเมือง อ. เมืองชัยภูมิ จ. ชัยภูมิ 36000
มีบิดาชื่อ นาย ด.ต.สุภาพ วรรณา
มารดาชื่อนาง หล่า คำพิทักษ์
การศึกษาในปัจจุบัน
กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาลัยราชภัฎสวนดุสิต ขณะวิทยาการจัดการ แขนงคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ปีที่ 3 แล้ว
นิสัยส่วนตัว
เป็นคนง่ายๆอะไรก็ได้ชอบสนุกชอบที่มีเพื่อนมากๆ
กีฬาที่ชอบ ฟุตบอลคับ
สีที่ชอบมากๆ สี แดง
งานอดิเรก ชอบดูหนัง ฟังเพลง

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551


นกไม่มีขน คนไม่มีความรู้ ขึ้นที่สูงไม่ได้... คนไม่มีวิชาความรู้ไปไหนก็เก้อเขิน .......... มหานิยม อยู่ที่ ความรู้ เสน่ห์ อยู่ที่ คุณธรรม สวย อยู่ที่ คนชอบ .......... อย่าเห็นแก่ตัว อย่ากลัวลำบาก ความยากจะไม่เกิด ถ้าเห็นแก่ตัว กลัวลำบาก ความยากจะเกิดฯ ............ คบคนพาล ได้ผิด คนบัณฑิต ได้ผล คบคนชั่ว พาตัว ให้อับจน คบคนดี ให้ผล จนวันตาย ............ เมาเพศ หมดค่า เมาสุรา หมดความสำคัญ เมาการพนัน หมดตัว เมาเพื่อนชั่ว หมดดีฯ ............ เขาร้ายมา อย่าร้ายตอบ เขาไม้ดีมา จงใช้ความดีเข้าแก้ไข คนตระหนี่ ให้ของที่ต้องใจ คนพูดเหลวไหล เอาความจริงใจเข้าไปสนทนาฯ ............. กฎหมาย ต้องลงมือทำจึงจะมีผลถูกผิด แต่กฎแห่งกรรม เพียงแค่คิดเท่านั้น ก็เป็นผลแล้วฯ ...............


พระพุทธเจ้า..... ..... ทรงสอนว่า "อานนท์ ปฏิบัติให้มาก ทำให้มาก แล้วจะสิ้นสงสัย" ความสงสัย จะไม่มีวันสิ้นไปได้ ด้วยการคิด ด้วยทฤษฎี ด้วยการคาดคะเน หรือ ด้วยการถกเถียงกัน หรือ จะอยู่เฉย ๆ ไม่ปฏิบัติภาวนาเลย ความสงสัย ก็หายไปไม่ได้อีกเหมือนกัน กิเลส จะหายสิ้นไปได้ ด้วยการพัฒนาทางจิต ซึ่งจะเกิดได้ ก็ด้วยการปฏิบัติที่ถูกต้องเท่านั้น... นักปฏิบัติธรรม ต้องปฏิบัติเพื่อละ เพื่อทิ้ง อย่าเอา มันหนัก เรียกว่า "ทิ้งเบา เอาหนัก" ... นักรบผู้หวังชนะ มิได้หลบอยู่ในหลุมเพลาะ จะต้องออกมาต่อสู้ข้าศึก ด้วยยุทธวิธีที่ฉลาด นักปฏิบัติธรรม ก็ไม่เอาจิตไปหมอบอยู่อย่างนั้น เบื้องแรก ต้องผ่านการมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา ฝึกหัดจิต ค้นหา ตามแบบ ตามวิธี จึงจะมีสันติสุข... ท่านต้องสำรวจตัวเอง รู้ว่าท่านเป็นใคร รู้ทันกายและจิตของท่าน โดยการเฝ้าดู ในขณะนั่งภาวนา หลับนอน ขบฉัน ... จงรู้จักความพอดี พอเหมาะ สำหรับตัวท่าน ... การเจริญสมาธิภาวนา ของเราก็คือ การมองตรงเข้าไปในจิต ท่านจะมองเห็นทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ และ ความดับไปแห่งทุกข์ ... แต่ท่านต้องมีความอดทน อดทนอย่างยิ่ง และต้องทนได้ ท่านจะค่อย ๆ ได้เรียนรู้ ... หลวงพ่อชา สุภัทโท ********** ธรรมะของจริง ... ... แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ มีอยู่กับบุคคลทุกคน เว้นไว้แต่ คนไม่ทำจริง ถ้าทำจริง ต้องมีทุกคน เพราะ ธรรมะ เป็นของจริง ... ต้องทำจริง ๆ จึงจะเห็นธรรมะของจริง ... พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็มีอยู่ในเราทุกคน แต่เราทำไปไม่ถึง ... ไม่ถึง พระพุทธ ไม่ถึง พระธรรม ไม่ถึง พระสงฆ์ ... การฝึกจิตใจนี้ เป็นของดี เป็นยอดของทาน เป็นการฝึกหัด อริยทรัพย์ภายใน เป็นการดัดแปลงจิตใจ ให้มันดี ให้มันบริสุทธิ์ หมดมลทิน เพื่อเป็นอุปนิสัย ถ้ายังไม่ถึง มรรค ผล นิพพาน ก็ยังมี อุปนิสัย ติดในจิตในใจ หลวงปู่สาม อกิญฺจโน **********